是新朋友吗?记得先点蓝字关注我哦~
全文录音
中文主播:张婧瑄
译:张瑞
审:崔茜
终审:洪垚鑫
(“4.0 Hi-Fun专栏译员”)
编者按:泰国吸引美资发展泰国“硅谷”,下面跟随小编一起看看吧~为了方便大家学习,我们把新闻中出现的生词附在文末,还有语音示范哦。
颂奇游说美国大使投资泰国,扩大供应链,并强调泰国在制造业、金融、资本市场上的独特地位,同时希望美方制定配套投资计划,以支持BIO的“EEC硅谷”构想。
7月2日,泰国副总理颂奇在总督府会见了美国驻泰国大使迈克尔•乔治•迪桑布里先生,双方就加强美、泰两国之间的经济合作事宜进行了商议。
颂奇先生表示,美国大使对两国建立相互投资合作已有了一些构想,并提议考虑哪些工业能够促进双方更加紧密地合作。
“我提议,美国应尤其重视泰国,因为我们确信,现在的泰国是柬老缅越泰五国(CLMVT)的中心,也是东盟的中心。”
此外,将是东部经济走廊(EEC)地区基础设施建设投资项目更加完善的一年,这将使泰国优势更加突出。
随着泰国金融、资本市场的壮大以及具有不亚于新加坡市场的吸引力。尤其是当泰国与中国香港和深圳股票市场的有联系时,将使得泰国更具吸引力。这也是为什么美国应该优先考虑在泰投资的原因。
此外,他还向美国大使说明到,泰国正在重视服务业和技术产业,因此泰国有兴趣让美国在泰投资尤其是在硅谷地区投资。因此提议了让美国制定一系列计划,以促进对EEC的投资,其中包括对初创公司、研究机构和教育机构的投资。泰国将通过调整税收政策和基金手段促进投资,提高竞争力。
“也向美国大使提及,泰国有潜力成为区域制造业、服务业和金融行业以及医疗服务行业的中心基地,因此希望美国参与并成为经济合作伙伴,以实现双方的互利共赢。”
迈克尔•乔治•迪桑布里先生表示,他们就泰美双方如何加强经济合作特别是在投资方面的合作进行了讨论。从投资者的角度来看,由于泰国有经济潜力并且将能够成为美国供应商所在地,因此美国有兴趣在泰投资。
“从个人角度来看,(我)相信泰国能够成为制造业供应链的一部分,预计将有更多的生产基地转移至泰国,也包括接下来准备入泰投资的美国公司和产业。”
泰国投资促进委员会办公室(BOI)的报告显示,在过去促进对数字企业投资的过程中,政府试行了春武里府是拉差县占地30莱的Thailand Digital Valley @Digital Park Thailand项目,这是除曼谷、清迈、普吉外,泰国的乃至东盟的另一个数字商务中心。
泰国数字谷(Thailand Digital Valley)还是帮助城市升级发展为智慧城市,提高EEC工业和服务业的效率,以及帮助加速区域运营者的工作数字化进程的重要平台。
数字化(产业)是在过去五年中实现显着增长的目标产业,也是其他产业升级过程中的重要技术。在—期间,共有990个数字工业投资申报项目,投资总额高达400亿泰铢,而则有185个数字工业申报项目,投资总额为90亿泰铢。
项目的第一阶段,办公楼和智能运营中心正在开发建设中,它将为数字化运营商提供600平方米的运营场所。就这一部分,投资促进委员会办公室(BOI)联合数字经济促进局(DEPA)邀请初创企业率先入驻。初期重点将放在位于东部的初创企业,而其他初创企业将帮助开发解决方案用以改善生活质量,解决城市或是东部地区农业工业和服务业中存在的问题。
下一个建筑是面积为4500平方米的数字知识交流中心,它是IOT机构和数字创新研究所的所在地,将于明年二月建成。BOI和DEPA将扩大邀请的目标投资者圈层,特别是邀请全球领先的科技集团如,华为、谷歌、微软以及一些急需创新的中大型企业参与入驻,并与泰国的初创公司们一同工作。
为吸引企业家和初创集团们入驻泰国数字谷地区,BOI为EEC的投资者制定了特殊权益,例如在免征企业所得税5-8年的基础上,再减免50%企业所得税两年。若按一定条件培养泰国人才,还可再减免50%的企业所得税三年,即共计减免50%企业所得税五年。
此外,还将完善该地的其他销售点,如建立完备的数字化商务生态系统尤其是引入不久之后即将到来的5G技术,开发解决方案来应对东部地区在与全球创新和领先公司合作的过程中所面临的机遇与挑战。
另外,也将有机会与地理空间信息技术发展局(GISTDA)以及与位于与泰国数字园(EECd)相邻的泰国SKP创新产业园区内的企业家们开展密切合作。
注:本篇文章观点不代表本平台观点
原文链接:/news/detail/887740
THAI
泰文主播:王凌琪
"สมคิด" ดึงสหรัฐลงทุน EEC ดันไอเดียซิลิคอนวัลเลย์
“สมคิด” กล่อมทูตสหรัฐลงทุนไทย ขยายซัพพลายเชน ย้ำไทยโดดเด่นภาคการผลิต ตลาดเงิน ตลาดทุน พร้อมให้ทำแพ็คเกจส่งเสริมจากบีโอไอ ผุดไอเดียซิลิคอนวัลเลย์ในอีอีซี
นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (2 ก.ค.) และได้หารือการเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับไทย
นายสมคิด กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐได้พัฒนากรอบแนวคิดบางอย่างในการสร้างความร่วมมือในการลงทุนระหว่างกันมาเสนอให้พิจารณาว่าอุตสาหกรรมอะไรบ้างที่จะต่อยอดความร่วมมือกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย
“ผมได้เสนอไปว่าให้สหรัฐโฟกัสที่ประเทศไทยเป็นพิเศษ เพราะเรามั่นใจว่าในขณะนี้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ CLMVT ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”
นอกจากนี้ ในปี 2564 จะเป็นปีที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ประเทศไทยจะยิ่งมีความโดดเด่น
ขณะที่ตลาดเงินตลาดทุนของไทยมีความแข็งแรงและมีความน่าดึงดูดไม่แพ้ตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะเมื่อไทยมีความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นของฮ่องกงและเสินเจิ้นในจีน จะทำให้ไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น
จึงเป็นเหตุผลที่สหรัฐควรจะให้ความสำคัญในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นลำดับแรก
นอกจากนี้ได้ชี้แจงบอกกับเอกอัครราชทูตสหรัฐว่าประเทศไทยกำลังให้ความสำคัญกับอุตสาหก
รรมภาคบริการและอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี ซึ่งไทยสนใจที่จะให้สหรัฐมาลงทุนในไทยโดยเฉพาะในซิลิคอนวัลเลย์ จึงได้เสนอให้สหรัฐทำแพ็คเกจมาเสนอขอส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ซึ่งรวมทั้งบริษัทสตาร์ทอัพ สถาบันวิจัย และสถานศึกษา โดยไทยจะให้การส่งเสริมการลงทุนได้ทั้งมาตรการทางภาษีและการส่งเสริมผ่านกองทุนเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
“ได้บอกกับเขาว่าเราจะเป็นฐานทั้งศูนย์กลางการผลิต ภาคบริการ และภาคการเงินของภูมิภาคได้ รวมทั้งในส่วนของการบริการทางการแพทย์ ซึ่งไทยมีศักยภาพด้านนี้
จึงอยากให้สหรัฐเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย”
นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร กล่าวว่า ได้หารือว่าไทยและสหรัฐจะมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะในด้านการลงทุนซึ่งในมุมมองของนักลงทุนสหรัฐมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเนื่องจากมองว่ามีศักยภาพทางเศรษฐกิจและสามารถที่จะเป็นที่ตั้งของซัพพลายเชนสหรัฐได้
“ในมุมมองส่วนตัวเชื่อว่าไทยสามารถเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนการผลิตของอุตสาหกรรมได้ ซึ่งคาดว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตเข้ามายังไทยมากขึ้น รวมถึงบริษัทและอุุตสาหกรรมของสหรัฐด้วยซึ่งก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นต่อไป”
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า การส่งเสริมการลงทุนธุรกิจดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้นำร่องตั้งโครงการ Thailand Digital Valley @ Digital Park Thailand อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 30 ไร่ เป็นฮับธุรกิจดิจิทัลอีกแห่งของไทยและอาเซียน นอกเหนือจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งมีธุรกิจดิจิทัลกระจุกอยู่มาก
Thailand Digital Valley ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาเมืองเป็น Smart City และเพิ่มประสิทธิภาพของภาคอุตสาหกรรมและบริการในอีอีซี รวมทั้งช่วยเร่งให้การปรับกระบวนการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัล (Digitization) ของผู้ประกอบการในพื้นที่ด้เร็วขึ้น
สำหรับดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เติบโตก้าวกระโดดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ยกระดับอุตสาหกรรมอื่น โดยช่วงปี 2558–2562 มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล 990 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 40,000 ล้านบาท และปี 2562 มียอดคำขอในอุตสาหกรรมดิจิทัล 185 โครงการ มูลค่าการลงทุน 9,000 ล้านบาท
โครงการเฟส 1 ส่วนอาคารสำนักงานและ Intelligent Operation Center กำลังเดินหน้าพัฒนา ซึ่งมีพื้นที่รองรับผู้ประกอบการดิจิทัล 600 ตารางเมตร ในส่วนนี้บีโอไอร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เชิญชวนสตาร์ทอัพให้เข้ามาตั้งกิจการในอาคารนี้ก่อน โดยระยะแรกเน้นกลุ่มสตาร์ทอัพในภาคตะวันออก
และกลุ่มสตาร์ทอัพอื่นที่จะมาช่วยพัฒนาโซลูชั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาของเมือง หรือแก้ปัญหาของภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและบริการในภาคตะวันออก
ส่วนอาคารถัดไป คือ Digital Knowledge Exchange Center ขนาด 4.5 พันตารางเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันไอโอทีและนวัตกรรมดิจิทัล จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2564 บีโอไอกับ DEPA จะขยายเป้าหมายการเชิญชวนนักลงทุนในวงที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก (Tech Companies) เช่น Huawei, Google, Microsoft และบริษัทขนาดใหญ่และกลางที่ต้องการสร้างนวัตกรรม ให้เข้ามาทำงานร่วมกับกลุ่มสตาร์ทอัพไทยด้วย
ทั้งนี้ การดึงดูดผู้ประกอบการและกลุ่มสตาร์ทอัพเข้ามาตั้งกิจการในพื้นที่ Thailand Digital Valley บีโอไอได้กำหนดสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการลงทุนในอีอีซี จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% อีก 2 ปี เพิ่มเติมจากการยกเว้นภาษีเงินได้5-8 ปี และหากพัฒนาบุคลากรไทยตามเงื่อนไขจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เพิ่มอีก 3 ปี รวมเป็นการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมทั้งหมด 5 ปี
นอกจากนี้ ยังชูจุดขายอื่นๆ ของพื้นที่ เช่น ระบบนิเวศน์ของธุรกิจดิจิทัลที่มีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า การพัฒนาโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ในพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีความท้าทาย และโอกาสที่จะได้ทำงานร่วมกับนวัตกรและบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก
อีกทั้งยังจะมีโอกาสร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) และผู้ประกอบการในอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Krenovation Park) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณติดกันภายในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) อีกด้วย
单词
对本篇文章有任何建议
欢迎扫码加入我们,前往后台联系咩咩小编
我们期待着与你的互动~
单词整理|吴金凤
单词审核|文富运
单词主播|王语丹
编辑|朱 珠
审核|胡应巧
转载声明
欢迎广大平台分享转载文章
转载请联系咩咩小编
微信号 : 654596469(说明来意)
四点零翻译工作坊